จากเหตุการณ์นางสาวแอม (นามสมมติ) อายุ 28 ปี สาวลูก 1 ชาว อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ออกมาร้องเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 6 กรณีนายท๊อป (นามสมมติ) อายุ 28 ปี สามีที่จดทะเบียนอยู่กินกันมานาน 5 ปี จนมีลูกชายวัย 3 ขวบด้วยกัน 1 คน ได้ไปรู้จักกับนางสาวอร (นามสมมติ) อายุ 48 ปี ขณะที่ชวนกันไปดูดวงกับหมอดูชื่อดังชาว อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช กระทั่งหมอดูชื่อดังทักนายท็อปว่าอดีตชาตินางสาวอร กับนายท็อปเป็นคนรักกันมาก่อน
เหยื่อสาวคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง! แฉพฤติกรรมหมอดูชื่อดัง ลวงขยี้กาม สูญเงินหลักล้าน
แฉซ้ำ! หมอดูดัง หลอกอมของลับเสริมดวง-ลวงมีเพศสัมพันธ์
พระเชื่อถูกทำของใส่ หาหมอผีทำพิธีขับไล่
จากนั้นนางสาวอรก็ได้รับนายท็อป เป็นลูกบุญธรรม โดยอ้างว่าอยากช่วยเหลือครอบครัวของนายท็อป และหลังรับนายท็อปเป็นลูกบุญธรรม นางสาวอรได้จ้างให้ไปเป็นคนขับรถ โดยให้เงินเดือนเดือนละ 5,000 บาท เช่าบ้านให้พักอาศัยที่อยู่ติดกัน เวลาจะไปไหนมาไหนก็ให้นายท็อปเป็นคนขับรถไปให้ บางครั้งก็ชวนกันไปทำธุระพักค้างคืนต่างจังหวัด
ทั้งนี้ นางสาวแอม บอกว่า สุดท้ายทั้งคู่ได้เสียมีอะไรกัน และทำให้นายท็อปเริ่มเปลี่ยนไปเป็นที่ผิดสังเกต บ้านก็ไม่กลับเป็นแรมเดือนอ้างว่าไปทำงานอยู่ที่ภูเก็ต แต่ที่จริงแล้วพักอยู่กับแม่บุญธรรม โดยตนจึงโทรศัพท์ไปพูดคุยกับนางสาวอรแม่บุญธรรม ก็ยอมรับว่ามีอะไรกับสามีของตนจริง จนตนต้องจ้างทนายความฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับแม่บุญธรรมรายนี้
ล่าสุดตาและยายของนายท็อป ว่าหลานชายคนดีเรียนจบปริญญาตรี และได้แต่งงานอยู่กินกับนาวสาวแอมมีลูกน้อยวัย 3 ขวบ 1 คน แต่มารู้อีกทีว่าทั้งคูมีปัญหาเรื่องครอบครัว คือนายท็อปหลานชายไปคบหากับนางสาวอรแม่บุญธรรม ซึ่งเป็นหมอดูชื่อดัง ทำให้นาวสาวแอมไม่พอใจจ้างทนายความฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากแม่บุญธรรมคนนี้ ซึ่งหลานชายเคยพาแม่บุญธรรมหรือหมอดูชื่อดังคนนี้มาที่บ้าน 3-4 ครั้ง แต่ละครั้งที่มาหมอดูคนนี้มักจะแต่ตัวใส่เสื้อผ้าที่ดูนุ่งสั้น และทักแม่ของนายท็อปหลานชายว่าถูกของคือมีผีแอบหรือสิ่งอยู่ในร่างของแม่นายท็อปที่นอนติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
และยังทักอีกว่าแม่นายท็อปจะตายภายในเดือนสิบที่ผ่านมา (คือเดือนตุลาคม ปี 2566) จนเวลาผ่านพ้นเดือนที่หมอดูทักว่าแม่นายท็อปจะต้องตายแต่ก็ไม่ตาย คนเป็นตาและยายจึงไม่ชอบหมอดูชื่อดังคนนี้ และเชื่อว่าหมอดูคนนี้น่าจะทำของไม่ดีใส่ตัวหลานชาย ทำให้หลงรักจนครอบครัวของหลานชายมีปัญหาทะลาะกันจนทุกวันนี้ จึงอยากจะพูดผ่านสื่อเตือนนายท็อปหลานชายให้กลับเนื้อกลับตัวเสียใหม่ และกลับมาอยู่กับครอบครัวที่จดทะเบียนมีลูกด้วยกัน